เที่ยวไทเป ใจไม่เซก็ไปได้ 10 เรื่องน่ารู้ของไทเป รีบไปก่อนยกเลิกฟรีวีซ่า

 

เที่ยวไทเป ใจไม่เซก็ไปได้
10 เรื่องน่ารู้ของไทเป รีบไปก่อนยกเลิกฟรีวีซ่า 

 

    นครไทเป เป็นเมืองหลวงของไต้หวัน และใหญ่ที่สุดบนเกาะไต้หวัน โดยตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ เป็นเมืองที่สวย สะอาด จนมีหลาย ๆ คนบอกว่า เหมือนเป็นญี่ปุ่น เลย
         ไต้หวันมีฤดูกาลที่แตกต่างกันอยู่ 4 ฤดูกาล คือ  ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว
      • เดือนที่ร้อนที่สุดคือ เดือนสิงหาคม มีอุณภูมิเฉลี่ยที่ 31 องศา
      • เดือนที่หนาวที่สุดคือ เดือนมกราคม มีอุณภูมิเฉลี่ยที่ 15 องศา
      • เดือนที่มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดคือ เดือนมิถุนายน
        เป็นตึกและมีธรรมชาติที่สวยงาม เดินทางสะดวก การคมนาคมง่าย ไม่ยุ่งยาก คนในประเทศใช้ภาษาจีนกลางและภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เรียกได้ว่าถ้าไปเที่ยว ไม่ต้องกลัวจะมีปัญหาทางด้านการสื่อสารเลย

      ตึกไทเป 101 Taipei 101

      • เป็นหนึ่งใน Landmark หลักของเมืองไทเป เป็นตึกที่สูงที่สุดในไต้หวัน และสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก( เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตเมื่อมาเยือนไทเป ขนาดที่มีสถานีรถไฟใต้ดินเป็นของตัวเอง ที่ด้านบนจะมีจุดชมวิวในร่มที่ชั้น 89 และสามารถขึ้นบันไดต่อไปที่ลานชมวิวกลางแจ้งที่ชั้น 91 ได้ด้วย

      วัดหลงซาน Lungshan Temple

      • เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทเป ตั้งอยู่ในแถบย่านเมืองเก่า มีอายุเกือบ 300 ปี มีรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรมคล้ายกับวัดพุทธของจีนแต่มีลูกผสมของความเป็นไต้หวันเข้าไปด้วย กระซิบๆวัดนี้ ใครที่โสดห้ามพลาดนะคะ เพราะวัดนี้เขาดังเรื่องหาคู่มากเวอร์

      สวนสัตว์ไทเป Taipei Zoo

      • เป็นสวนสัตว์ที่หลักของประเทศไต้หวัน และยังเป็นสวนสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียด้วย มีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 500 ไร่ บางครั้งเรียกว่าสวนสัตว์มูซา (Muzha Zoo) ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของไทเป เดินทางมาได้สะดวกมากเพราะอยู่ที่สุดสายของสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Taipei Zoo Station สายสีน้ำตาลเลย 

      Yangmingshan National Park

      • อุทยานแห่งชาติหยางหมิงชาน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในไทเป เนื่องจากเดินทางได้ง่ายและเป็นธรรมชาติที่สวยงามในระยะห่างจากไทเปแค่ 20 กม.  แต่ละฤดูของหยางหมิงซานจุดน่าสนใจแตกต่างกัน 
           มีหลายช่องทางในการเดินทางค่ะ รถบัสเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัด รถเมล์ที่ไต้หวันสะดวกมากๆ ในไทเปมีป้ายรถเมล์เยอะมากๆ ที่นี่รถเมล์จะจอดตามป้ายเท่านั้น
      • รถไฟ MRT เป็นรถไฟฟ้าที่ไว้เดินทางสำหรับรอบเมืองไทเป คนที่เที่ยวในเมืองก็สะดวกมากถ้าเดินทางด้วยรถไฟฟ้านี้ ชนิดของตั๋วมี 3 แบบ
        1. Single Journey Ticket ตั๋วเที่ยวเดียว เหมือนรถไฟฟ้าบ้านเรา สามารถซื่อได้ตามตู้ขายตั๋วทั่วไป
        2. One-Day Pass ตั๋ววันเดียว นั่งกี่เที่ยวก็ได้ในหนึ่งวัน ราคาตั่ว 200 NT แต่มีค่ามัดจำบัตร 50 NT จะได้คืนตอนเอาตั๋วไปคืน
        3. Group Ticket ตั๋วกลุ่ม เหมาะสำหรับ 10 คนขึ้นไป จะได้ราคาที่ถูกลง 20%
      • รถไฟ TRA (ไถเถี่ยเป็นรถไฟไว้ใช้เดินทางข้ามจังหวัดของไต้หวัน พูดง่าย ๆ ก็คือรถไฟที่สามารถเดินทางเหนือจรดใต้รอบเกาะไต้หวันเลย  ถ้าเพื่อน ๆ อยู่ไทเปเเล้วอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็นั่งรถไฟ TRA ได้เลย โดยไปขึ้นที่ Taipei Main Station
      • รถไฟความเร็วสูง THSR (เกาเถี่ย) ไว้เดินทางข้ามจังหวัดเหมือนรถไฟ TRA เเต่จะเร็วกว่ามากกก และ แน่นอนราคาก็สูงกว่าด้วย
          เฉลี่ยประมาณ 1 บาท = 0.93 ดอลลาร์ไต้หวัน (TWD) เท่านั้นเอง

           อาหารไต้หวันเป็นสวนผสมของอาหารจีน และอาหารญี่ปุ่น ราคาเสมือนอยู่กรุงเทพ ไทเปดังมากเรื่อง street food ได้ไปเที่ยวต้องตามไปกินนะ โดยเฉพาะ  Sugar Tiger ร้านชานมไข่มุกยอดฮิต ร้านดังที่มีคนต่อแถวซื้อตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้ได้เข้ามาที่ไทยแล้ว แต่ไปไทเปทั้งทีก็ต้องไปกินของต้นฉบับแน่นอน

           ปัจจุบันมีสายการบินมากมายที่บินตรงไทเปเลยนะ เรียกได้ว่าสะดวกสะบายมากขึ้น มีทั้ง Low cost ทั้ง Full service เลือกตามงบที่ตั้งไว้ได้เลย

      บินตรงจากไทยก็จะมี 

          1. สายการบิน การบินไทย
          2. สายการบิน China Airlines
          3. สายการบิน Tiger Air Taiwan
          4. สายการบิน EVA Air
          5. สายการบิน ไทยไลอ้อนแอร์
          6. สายการบิน Nok Scoot Airlines

         ตอนนี้ที่ไต้หวันกำลังจะยกเลิกฟรีวีซ่านะ กำหนดฟรีวีซ่าจะหมดลงในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ส่วนใครที่มีแพลนจะไปหลังจากนี้เช็คตัวเองให้ดีค่ะ 

          สำหรับผู้ที่มีวีซ่า สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น อังกฤษ อียู (Schengen Visa) ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ที่ยังไม่หมดอายุ สามารถเดินทางเข้าไต้หวันได้โดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่าไต้หวันและสามารถพำนักอยู่ในไต้หวันไม่เกิน 30 วัน ใครไม่มีตามที่ว่านี้ ก็ต้องไปขอวีซ่าไต้หวันที่สถานทูตไต้หวัน เตรียมเอกสารไปให้พร้อมแล้วก็ทำได้ง่าย ๆ เลย

      ย่านช็อปปิ้งวัยรุ่น ซีเหมินติง XiMenDing Youth Shopping District
      • เป็นย่านช็อปปิ้งของวัยรุ่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไต้หวัน มีฉายาว่า ฮาราจูกุแห่งไทเป (Harujuku of Taipei) ซึ่งเป็นแห่งช็อปปิ้งของวัยรุ่นชื่อดังอยู่ที่มหานครโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่งกำเนิดของแฟชั่นของหนุ่มสาวชาวไต้หวัน และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองไทเปด้วp
      ตลาดกลางคืนซื่อต้า ShiDa Night Market
      • เป็นตลาดคนเดินขายของกลางคืน เมื่อเทียบกับตลาดอื่น ๆ อีกหลายแห่งในไทเปแล้ว ที่นี่จะมีความเป็นท้องถิ่นมากกว่า นักท่องเที่ยวน้อยกว่า ขนาดของตลาดก็เล็กกว่า คนน้อยกว่าที่อื่นเล็กน้อย เพราะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย National Taiwan Normal University ทำให้สินค้าที่ขายส่วนใหญ่จะเน้นแฟชั่นกว่าที่อื่น ๆ มีราคาตั้งแต่ถูกจนถึงกลาง ๆ แต่ก็มีสินค้าอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เช่น ของสะสม ของเก่า เป็นต้น มีร้านค้าทั้งแบบที่มีหน้าร้าน ตกแต่งสวยงาม
      ตลาดกลางคืนซื่อหลิน ShiLin Night Market
      • เป็นหนึ่งในตลาดไนท์มาร์เก็ตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองไทเป โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือโซนตลาดในอาคารเก่าซึ่งมักจะเป็นร้านอาหารและขนมมีทั้งแบบแผงลอยและที่เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นขายอาหารแบบท้องถิ่นของไต้หวันสไตล์ Street Food ต่าง ๆ เช่น ปลาหมึกย่าง หอยทอด ไก่ทอด ข้าวขาหมู และชาไต้หวันต่าง ๆ เป็นต้น และอีกโซนที่เป็นตรอกซอกซอยแยกย่อยรอบอาคารตลาดนี้อีกมาก ซึ่งจะขายของผสมกันไปทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของเล่น ของฝาก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางค์ เครื่องประดับ ของใช้เด็ก ของที่ระลึก โรงภาพยนตร์ ร้านคาราโอเกะ และอื่น ๆ ทั้งเป็นแบรนด์นานาชาติและร้านท้องถิ่น
      ตลาดกลางคืนเฝิงเจี่ย FengChia Night market
      • ตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน มีร้านเสื้อผ้า กระเป๋า ขนม ของกินอีกเยอะมากมายเลย ร้านรองเท้าส่วนใหญ่จะเรียงรายอยู่สองฝั่งของถนนฟู่ซิงค่ะ ร้านที่น่าสนใจจะมี YOPW ขึ้นชื่อเรื่อง Onitsuka Tiger รองเท้า New balance และร้านรองเท้าชื่อดังที่เป็นแหล่งรวมรองเท้าอย่าง ABC mart ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คนไทยนิยมไปสุด ๆ
      กวงหัวดิจิตอลพลาซ่า Guang Hua Digital Plaza
      • ศูนย์รวมสินค้าอิเลคโทรนิคที่มีร้านค้าเล็ก ๆ มาอยู่รวมกันในตึกใหญ่ 6 ชั้น ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล โน้ตบุ๊ค เครื่องปรินท์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ นึกภาพพันธ์ทิพย์บ้านเรา หรือ Yodobashi ที่ญี่ปุ่น ใครดูในห้างแล้วยังไม่จุใจ นอกตึกก็มีร้านค้าเล็ก ๆ อยู่ตามซอกซอย รวมกันเป็นตลาดกวงหัวด้วย

       

      ข้อควรรู้ : ร้านค้าเล็กๆเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะต้องชำระเงินสด หรือบางร้านรูดบัตรได้จะมีค่าธรรมเนียมอีก 3% แต่ข้อดีคือสามารถต่อรองราคาหรือขอของแถมเพิ่มได้บ้าง

      กลับไปยังบล็อก